จระเข้ อีซี่ น้ำยากันพื้นลื่นห้องน้ำ
น้ำยากันพื้นลื่นห้องน้ำ สร้างความฝืดเมื่อกระเบื้องเปียกน้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพ ใช้ได้กับพื้นกระเบื้องโดยเฉพาะ ยกเว้นกระเบื้องเคลือบแก้ว ไร้สารตกค้าง ใช้ได้ทั้งภายในและภายนอกอาคาร หรือบริเวณที่มีความเสี่ยงต่อการลื่นล้ม เช่น ระเบียง หรือ พื้นที่ในห้องน้ำ
การใช้งาน
1 .ควรทดสอบบริเวณเล็กๆ ก่อน
2. เทน้ำยาจระเข้ กันพื้นลื่น ลงบนฟองน้ำเท่านั้น แล้วค่อยๆ
ชโลมให้ทั่วบริเวณที่ต้องการ
3. รอ 45-60 นาที (น้ำยาต้องชุ่มอยู่ตลอดเวลา 45 นาที)
หากมีบางส่วนแห้งให้ชโลมซ้ำ)
4. เมื่อครบเวลาจึงล้างออกด้วยน้ำเปล่า ประสิทธิภาพของน้ำยาก็จะสมบูรณ์
5. หมั่นทดสอบอย่างสม่ำเสมอ อย่างน้อย 6 เดือน/ครั้ง
หากพบว่าประสิทธิภาพกันลื่นลดลง ให้ทำซ้ำอีกครั้ง (รับรองผลเฉลี่ย 6 เดือน)
พื้นที่ใช้งานโดยประมาณ 5 ตารางเมตร
สารประกอบสำคัญ
- Phosphoric Acid 3-5%
- Ammonium Bifuoride 1-3%
- Alcohol C9-11 Ethoxilate 1-2%
ข้อควรระวัง
- ควรทดสอบประสิทธิภาพในพื้นที่เล็กๆ ก่อน
- สวมถุงมือและแว่นป้องกันตลอดเวลา และควร หลีกเลี่ยงการสัมผัสโดยตรง
- สีของกระเบื้อง และความมันวาวอาจลดลงเล็กน้อย เนื่องจากปฏิกริยาทางเคมีของ น้ำยากันพื้นลื่นห้องน้ำ อาจทำให้กระเบื้องที่มีสีเข้ม เช่น สีดำ หรือสีน้ำเงินแก่ อาจจางลง (ควรทดสอบก่อนว่าผลที่ได้เป็นที่พอใจหรือไม่) แต่การกันพื้นลื่นนยังคงให้ประสิทธิภาพเหมือนเดิม
- ไม่ควรเทน้ำยาจระเข้ กันพื้นลื่น ลงบนกระเบื้องโดยตรง เด็ดขาด จะต้องเทลงบนฟองน้ำ แล้วใช้ฟองน้ำทาลง บนพื้นผิวเท่านั้น
• ทางการเข้าตา ล้างตาด้วยน้ำเปล่าจำนวนมากทันที และกรอกตาขึ้นลง หากใส่คอนแทคเลนส์ ควรถอดอย่าง ระมัดระวัง และล้างตาด้วยน้ำเปล่าอย่างน้อย 20 นาที และควรปรึกษาแพทย์
• ทางการสูดดม เคลื่อนย้ายผู้ป่วยไปที่โล่งและอากาศ ถ่ายเท หากยังมีควันฟุ้งจากสารเคมี ควรสวมใส่หน้ากาก ในกรณีหมดสติ ควรจัดท่าทางผู้ป่วยอยู่ในท่าที่เหมาะสม ปลดกระดุมเสื้อหรือเนคไทด์ ควรเคลื่อนย้ายผู้ป่วยไป ในสถานที่ปลอดโปร่ง อากาศถ่ายเท และปรึกษาแพทย์ฉุกเฉินทันที
• ทางผิวหนัง ล้างสิ่งปนเปื้อนจากผิวหนังด้วยน้ำจำนวนมาก ล้างสารที่ปนเปื้อนเสื้อผ้าด้วยน้ำ และควรสวมถุงมือ ควรล้างน้ำเป็นระยะเวลา 20 นาที ซักเสื้อผ้าและรองเท้าก่อนนำมาสวมใส่
• ทางปาก ถอดฟันปลอมหากมี และดื่มน้ำตาม ในปริมาณพอสมควร และควรหยุดหากผู้ป่วยมีอาการอยากอาเจียน หากผู้ป่วยมีอาการอาเจียน ควรจัดท่าให้ ศีรษะอยู่ต่ำ เพื่อป้องกันไม่ให้สารพิษเข้าสู่ปอด ไม่ควรนำสิ่งต่างๆใส่ปากผู้ป่วย หากผู้ป่วยมีอาการหมดสติ ควรเคลื่อนย้ายผู้ป่วยไปที่อากาศปลอดโปร่งและถ่ายเทปลดกระดุมเสื้อ และปรึกษาแพทย์ฉุกเฉินทันที